5 วิธีการทำให้ยอดขาดทุนเป็นกำไร

5 วิธีการทำให้ยอดขาดทุนเป็นกำไร

     เรื่องของการขาดทุน ไม่ว่าจะทำธุรกิจประเภทไหน เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนต้องเจอ ซึ่งเราควรหาวิธีรับมือ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ร้านค้าของเราเสี่ยงต่อการขาดทุน ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการทำให้ยอดขาดทุนเป็นกำไรในบทความนี้กันค่ะ

1). การบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับร้านค้า

     การขายของออนไลน์ เราควรรู้จักบันทึกรายละเอียดของต้นทุน ยอดขาย และออเดอร์ต่อวันของร้านไว้เสมอ เพราะช่วยให้เราคำนวณกำไร และเงินส่วนที่ขาดทุนได้ เมื่อเรามีการเตรียมตัวรับมือ เราจะสามารถแก้ไขปัญหาการขาดทุนได้ทันที ซึ่งมีช่องทางการบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับร้านค้าที่แนะนำดังนี้

1.1) ช่องทางออนไลน์ Google Drive และ Google Sheet

     - เหมาะสำหรับทำบัญชี เพราะ Google Drive สามารถสร้างแฟ้มเอกสารที่เรียกว่า Google Sheets ขึ้นมา เพื่อทำตารางบันทึกรายละเอียดต้นทุน ยอดขาย ออเดอร์ และอื่นๆได้

     - อัพเดทรายละเอียดได้ตลอด เข้าใช้งานสะดวก เพราะสามารถใช้งานบน smartphone ได้

1.2) ช่องทาง Excel

     เหมาะสำหรับทำบัญชีโดยตรง สามารถทำตารางบันทึกรายละเอียดต้นทุน ยอดขาย ออเดอร์ และอื่นๆได้ รวมทั้งยังสามารถเอาข้อมูลมาทำกราฟเพื่อช่วยให้วิเคราะห์ได้ง่ายขึ้นด้วย

2). เลือกความจำเป็นมาก่อนเสมอ

     เราควรดูความจำเป็นก่อนตัดสินใจ เสียเงินลงทุนในส่วนอื่นๆของร้านค้า เช่น การเพิ่มยอด Follow โดยการซื้อ ซึ่งอย่าลืมว่า ยังมีวิธีอื่นที่ช่วยเพิ่มยอดได้ ไม่ว่าจะเป็น การไป Follow ลูกค้าเราเพื่อให้ลูกค้าเรา Follow เรากลับ ,  การไป Comment กลุ่มคนที่น่าจะเป็นลูกค้าของเรา เป็นต้น หากเราไม่มีการดูความจำเป็นก่อนลงทุน อาจจะทำให้เราขาดทุน เพราะทำให้เงินทุนของเราเสียไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็นได้

3). คอยสังเกตกลุ่มลูกค้าของเราอยู่เสมอ

     เราควรสังเกตความต้องการของลูกค้าเราเสมอ โดยสังเกตว่าลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาซื้อสินค้ากับเรามีลักษณะแบบไหน เช่น ลูกค้าเราส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ชอบใส่เดรส เราก็สั่งเดรสมาขาย เพราะเป็นสินค้าที่มีแนวโน้มว่าลูกค้าเราจะสนใจ เป็นต้น ซึ่งหากเราไม่รู้ความต้องการของลูกค้า แม้เราลงทุนไปจำนวนมากเท่าไหร่ ก็ไม่คุ้มค่า และเสี่ยงขาดทุนระยะยาวด้วย

4). การใช้สื่อ Digital Media ยังไงให้ไม่ขาดทุน

     การทำธุรกิจขายของออนไลน์ บนสื่อ Digital Media เป็นที่นิยมมากขึ้น เพราะมีความสะดวก รวดเร็ว สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย ที่สำคัญมีราคาไม่สูงมาก  หากเรามีการศึกษาอย่างละเอียดดังนี้
     - การตรวจสอบกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ของเรา

     - การศึกษาเรื่อง การปรับแต่ง“ต้นทุนต่อการคลิ๊ก” (CPC) เพื่อให้ราคาที่เราซื้อโฆษณาไม่สูงเกินไป

     - ควรมีการทดสอบรัน Ad โดยใช้เงินจำนวนต่ำทดลองหลายๆครั้ง จนเจอ Ad ที่มีราคาต้นทุนต่อการคลิ๊กต่ำแล้วจึงค่อยกดเพิ่ม Budget สำหรับ Ad ทีหลัง

     - การทำ Ad โฆษณา ควรมีภาพสินค้าที่ชัดเจน มีสีสันสะดุดตา และมีการปรับแต่งโทนสี ทำให้คนอยากกดเข้ามา

5). เลือกอุปกรณ์ยังไงไม่ให้ขาดทุน

     การขายของออนไลน์ หากไม่มีการคำนวณงบประมาณในการใช้จ่ายให้เหมาะสมกับประโยชน์ที่ได้รับ ก็เหมือนเป็นการขาดทุนทางอ้อม เช่น การเลือกซื้อ smartphone ที่มีราคาสูง เพื่อมาตอบแชทลูกค้า , โพสภาพสินค้า , เช็คยอดโอน หรืออื่นๆ ทั้งที่มี smartphone  รุ่นอื่น ราคาถูกกว่าและสามารถใช้งานได้เหมือนกัน หากเรามองถึงความคุ้มค่าและโยชน์ที่ได้รับ เราจะรู้ว่าเงินที่เหลือจากส่วนนี้ สามารถเอาไปใช้ประโยชน์ในส่วนอื่นได้อีก


     หากทุกคนอยากให้เราเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องไหน สามารถแจ้งเข้ามาในกลุ่มไลน์ >> " ตัวแทนใหม่reseller " << ได้เลยจ้า