2 STEP เพื่อใช้งาน App SELLBOARD24

2 STEP เพื่อใช้งาน App SELLBOARD24


     ปกติเราลงสินค้าขายบน Instagram หรือ Line เราใช้เวลาลงสินค้า 1 ชิ้น ประมาณ 5-8 นาที เพราะมีทั้งรูปภาพ รายละเอียดสินค้า และ Hashtag ซึ่งในแต่ละวันเราลงสินค้ามากกว่า 6 ชิ้น ทำให้เสียเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมาสอนใช้งาน Application sellboard24 ที่ช่วยให้ทุกคนลงขายสินค้าได้ภายใน 1 นาที โดยเราจะมาสอนวิธีการเปิดใช้งาน วิธีการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น วิธีการใช้งานแอพ และวิธีการตั้งค่าแอพ ในบทความนี้ค่ะ 



1. โหลดแอพพลิเคชั่น

สำหรับ IOS : คลิกดาวน์โหลด ที่นี่



สำหรับ Android : คลิกดาวน์โหลด ที่นี่






2. ดูวิธีใช้งานแอพพลิเคชั่น

1. เมื่อเราเปิด App Sellboard24 ขึ้นมา ระบบจะให้เราทำการ Login เข้าแอพพลิเคชั่นโดยใช้ e-mail และ password ที่สมัครในหน้าเว็บไซต์ "yourstockweb"






การตั้งค่ารายละเอียดการโพสสินค้า(จะโผล่มาครั้งแรกเมื่อ Log in)

Login เข้ามาเป็นครั้งแรกจะเข้าสู่หน้า Setting จะมีให้ตั้งค่าอยู่ 4 ส่วน คือ

a. ราคาที่บวกเพิ่ม (select Price for plus) เลือกราคาที่จะบวกเพิ่มจากราคาตัวแทนจำหน่ายที่ได้

b. ใส่ Hashtag (Input Hashtag)อันนี้ในช่วงเริ่มต้นใช้งานแอฟยัง ไม่แนะนำให้ใส่ เพราะ ในรายละเอียดค้าของเรามีใส่ให้ไปแล้ว ประมาณ 20 -30 hashtag ซึ่งข้อจำกัดของ IG ไม่สามารถใส่ Hashtag ได้เกิน 30 Hashtag แต่ว่าถ้าจะใส่ช่องนี้ก่อน Post ต้องไปลบ Hashtag ในรายละเอียดสินค้าก่อน

c. ใส่รายละเอียดอื่นๆ (Input Description) แนะนำให้ใส่ช่องทางการติดต่อ เช่น Lind id รายละเอียดการขนส่ง เช่น ช่องทางการจัดส่ง , วันที่จัดส่งสินค้า และราคาค่าขนส่งสินค้า 

d. ลำดับการเรียงของโพส (Choose your posting sequence) เลือกเพื่อเรียงลำดับการตั้งค่าที่เราตั้งไว้ข้างต้นว่าให้อะไรแสดงก่อน-หลังแนะนำให้ใช้เป็น Description > Price > Hashtag

สุดท้ายกด Save






วิธีการแชร์สินค้าเข้าสู่ IG และ Line

     เมื่อเราตั้งค่าเสร็จแล้ว จะแชร์สินค้าเข้าสู่ร้านค้าของเราต้องกลับมาที่หน้า Home จะมีสินค้าแสดงตามวันที่อัพเดตสินค้าให้กดเลือกที่วันที่
 

จะปรากฏสินค้าพร้อมราคา  3 แบบตามภาพด้านล่าง
     - Customer price คือ ราคาสินค้าที่ยังไม่มีส่วนลดตัวแทนจำหน่าย
     - Reseller price คือราคาต้นทุนที่เราจะได้
     -  Your price คือ ราคาที่เราขาย  คิดโดย ราคาต้นทุนที่เราได้ ราคาที่บวกเพิ่มในหน้าตั้งค่ารายละเอียดการโพส
     - Profit คือ กำไรที่เราได้จากการขายสินค้าชิ้นนี้




กดแชร์




     แอพพลิเคชั่นจะแจ้งให้เราเลือกช่องทางที่จะแชร์ไปคือ line และ Instagram


     พอเลือกช่องทางได้แล้วจะทำการดาวโหลดรูปสินค้าและคัดลอกข้อความรายละเอียดการโพสอัตโนมัติพร้อมกับเปิดแอพช่องทางที่เราเลือกจะแชร์ขึ้นมา






กรณีเลือกโพสผ่าน Instagram




ให้กดที่ + เพื่อจะเพิ่มรูปสินค้าลงในเพจ




แล้วกดเลือกรูปสินค้าที่ดาวน์โหลดมาจากนั้นกด Next



จากนั้นกดค้างที่ช่องแล้วกดวาง (Paste)



ข้อความรายละเอียดการโพสจะถูกวางลงในช่อง 



     จากนั้นกด Share สินค้าจะถูกแชร์เข้าไปใน Instagram พร้อมองค์ประกอบที่เราลงไว้








กรณีเลือกโพสผ่าน Line


จากนั้นเราก็เลือกได้เลยว่าจะโพสไปไหน เช่น ช่อง Chat , Timeline



กรณีต้องการโพสผ่านช่อง Chat 
ให้เราเลือกไปที่ช่อง Chat




จากนั้นกดเลือกรูปภาพที่เราต้องการแชร์(ที่ระบบเซฟมาให้) 




     กดตรงช่องพิมพ์ข้อความค้าง เพื่อกดวางข้อความที่ระบบเซฟให้ จากนั้นกดส่งข้อความ




แค่นี้สินค้าเราก็ถูกโพสใน Line Chat แล้ว




กรณีต้องการโพสบน Timeline
เลือกตรงส่วน Timeline




กด +



กด Write




กดค้าง เพื่อกดวางข้อความที่ระบบเซฟให้



ระบบจะลงข้อความสินค้าที่เราเซฟมาให้




จากนั้นกดเลือกรูปจาก Icon ซ้ายล่าง




จากนั้นกดเลือกรูปที่ระบบเซฟมาให้


กด Post



แค่นี้สินค้าก็ไปขึ้นที่หน้า Timeline แล้ว






หน้าFavorite

     เมื่อเราแชร์สินค้าสำเร็จ สินค้าที่เราเคยแชร์ไปแล้วจะถูกบันทึกอยู่ในหน้า Favorite




     ระบบจะเข้าสู่หน้า My Lists ซึ่งจะเป็นหน้ารวมสินค้าที่เราแชร์ไปทั้งหมด หน้านี้จะช่วยให้เวลาเราต้องกลับมาสั่งซื้อสินค้าที่เราแชร์ไปขาย สามารถทำได้ง่ายขึ้น




     เมื่อกดที่รูปภาพจะเข้าสู่หน้ารายละเอียดสินค้าซึ่งสามารถกดเช็คสต็อกสินค้าและสั่งซื้อที่หน้านี้ได้เลย






การสั่งซื้อสินค้า

หลังจากที่กดเข้าหน้ารายละเอียดสินค้าแล้วกดสั่งซื้อที่ปุ่ม Buy



     เลือกจำนวนที่จะสั่งซื้อโดยเพิ่มจำนวนให้กด + ถ้าลดจำนวนให้กด - และยืนยันให้กด Add to cart




เมื่อเลือกสินค้าที่จะสั่งซื้อครบแล้วให้กดที่รูปรถเข็นมุมบนขวา


ตรวจสอบสินค้าในรถเข็นให้ครบถ้วนเมื่อแน่ใจแล้วให้กด Next



กรอกข้อมูลการจัดส่ง โดยมีรายละเอียดดังนี้

A. Sender name ชื่อของผู้ส่ง (ใส่ชื่อร้านของเรา)

B. Customer name ชื่อผู้รับ

C. Customer Tel เบอร์โทรศัพท์ผู้รับ (ใส่แต่ตัวเลข)

D. Customer Address ที่อยู่จัดส่ง

E. ZIpcode รหัสไปรษณีย์ของผู้รับ (ใส่แต่ตัวเลข





     เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนให้กด Next เพื่อไปยังหน้าสรุปผลก่อนสั่งซื้อ




     เลือกวิธีการจัดส่ง และตรวจสอบความถูกต้องทั้งหมดก่อนกด Confirm


     เมื่อระบบทำการสั่งซื้อสำเร็จจะมาที่หน้ารายละเอียดของใบสั่งซื้อ ในหน้านี้จะมีปุ่มยกเลิกการสั่งซื้อ (Cancel) ปุ่มอัพโหลดหลักฐานการโอน (Upload slip) และปุ่มคัดลอกเลขพัสดุ (Copy)





กดที่ปุ่ม Upload slip เพื่ออัพโหลดหลักฐานการโอน 




จะมีช่องให้กรอกดังนี้
A. เลือกวันที่และเวลาที่ทำการโอนเงิน

B. เลือกธนาคารที่เราโอนเงินไป

C. กดที่รูป หรือกดที่ปุ่ม Select image เพื่อเลือกรูปหลักฐานการโอน

D. เมื่อรูปที่เราเลือกโหลดเสร็จแล้ว ปุ่ม select image จะเปลี่ยนเป็นปุ่ม Send slip ให้กดที่ปุ่มนั้นเพื่อทำการอัพโหลด





     เมื่ออัพโหลดเสร็จสิ้นระบบจะแจ้งเตือนว่า “Upload image success!!” ให้กด OK จะกลับไปที่หน้ารายละเอียดของใบสั่งซื้อ



ถ้าเราอยากจะกลับมาดูประวัติการสั่งซื้อ ให้กดที่เมนูด้านล่าง “Invoice History




ในหน้า Invoice history จะมีเมนูแยกอยู่ 5 เมนู โดยจะแยกตามสถานะของในสั่งซื้อดังนี้

A. Reservation Invoice ใบสั่งซื้อที่มีสถานะเป็นจอง (ยังไม่มีหลักฐานการโอน)

B. Wait review ใบสั่งซื้อที่มีการโอนจ่ายเงินแล้วแต่รอตรวจสอบ

C. Paid Invoice ใบสั่งซื้อที่มีสถานะจ่ายแล้ว

D. Problem Invoice ใบสั่งซื้อที่มีปัญหา (มักเกิดจากสินค้าบางอย่างในใบสั่งซื้อถูกยกเลิก)

E. Cancel Invoice ใบสั่งซื้อที่ถูกยกเลิก




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิธีเพิ่ม follower ใน instagram อย่างมีประสิทธิภาพ

ทักษะที่แม่ค้าออนไลน์ควรมี

APP แนะนำสำหรับแม่ค้าออนไลน์